อะไรที่ทำให้ Cardano นั้นพิเศษกว่าตัวอื่นๆ??
Platform หนึ่งสร้างเวปไซท์ที่สวยงามมาก และมีทีมงานที่ดูมีศักยภาพ แข็งแกร่ง และก็มีงานเขียนมากมาย แต่มันไม่สามารถคิดค้นอะไรใหม่ๆได้ ไม่มี Innovation มันจะตายในไม่ช้า ปัจจุบันนี้หลายๆทีมงานประกาศตัวว่าจะสร้าง Blockchain ที่จะมาทดแทน Ethereum ให้ได้ ดังนั้นการแข่งขันเป็น 3rd Blockchain generation นั้นไม่ใช่ทางที่ง่าย มีการแข่งขันค่อนข้างสูง
Cardano นั้นยังมีส่วนที่พัฒนายังไม่เสร็จอีกมาก แต่จากแผนการพัฒนาและโครงสร้างองค์กร ถือว่าเป็นเหรียญที่มีศักยภาพ ผมจะสรุปให้ฟังถึงความแตกต่างไล่ไปทีละส่วนดังนี้ Layered technology, Proof of stake protocol, coding language, wallet, governance model, และ treasury
Layered Technology
เมื่อพูดถึงการโอนเหรียญ ในการโอนแต่ละครั้งเราจะมีข้อมูล 2 ประเภท คือ
ประเภทแรก ข้อมูลที่ประมวลผลครั้งเดียวจบ เช่น ระบบบัญชี จากใครถึงใคร เมื่อไหร่ และเท่าไหร่
ประเภทสอง ข้อมูลที่ต้องมีการประมวลผลอยู่ตลอดเวลา เช่นเงื่อนไขการโอน ทำไมถึงโอน เกี่ยวพันกับใครบ้าง จากที่ไหนถึงที่ไหน (metadata)
หากนึกคิดดีๆ เราจะนึกออกว่า Blockchain ที่บันทึก+ทำธุรกรรมได้แค่ข้อมูลประเทภแรกอย่างเดียวก็คือ Bitcoin และ Blockchain ที่บันทึก+ทำธุรกรรมได้ทั้งสองอย่างก็คือ 2nd gen ต่างๆเช่น ETH/NEO และข้อมูลประเภทที่สองก็คือ Smart-contract นั่นเอง แต่ปัญหาคือ Ethereum นั้นรวมข้อมูลทั้งสองประเทภเข้าไว้ด้วยกัน ดังนั้นมันทำให้เครือข่ายของ Ethereum ทำงานเกินความจำเป็นเพราะบางทีเราไม่ต้องการ ข้อมูลประเภทที่สอง และเนื่องจากการรวมกันของข้อมูลทำให้ ข้อมูลที่สื่อสารกันบนเครือข่ายมันใหญ่ขึ้น หมายความว่าผู้ส่งต้องจ่าย Gas ที่มากขึ้นอีกด้วย มันเกิดภาระโดยไม่จำเป็น
ต่างกับ Cardano ที่มีเทคโนโลยี Layered ซึ่งจะแบ่งแยกข้อมูลทั้งสองประเภทออกจากกันดังนี้
Cardano Settlement Layer (CSL) ส่วนนี้จะดูแลควบคุมข้อมูลประเภทแรกทั้งหมดเช่น จำนวนเหรียญในบัญชีทุกบัญชี
Cardano Control Layer (CCL) ส่วนนี้จะควบคุมดูแลข้อมูลประเภทที่สองทั้งหมดเช่น Smart-contract
ในส่วนของ CSL บุคคลทั่วไปจะไม่สามารถแก้ไขโค้ดต่างๆได้ ทั้งหมดจะถูกเขียนไว้ให้หมดแล้ว สำหรับฟังค์ชั่นการใช้งานทั่วๆไป เพื่อความสะดวกสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป และในส่วนของ CCL นั้นจะเกี่ยวพันกับ Smart-contract จะสามารถเขียนโค้ดได้ตามต้องการสำหรับนักพัฒนาต่างๆ เพื่อจะทำงานร่วมกับ Cardano
ประโยชน์ของการแยก Layer นั้นมีสองประการ คือ
1 มันจะช่วยให้การทำธุรกรรมในแต่ละครั้งมีความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นเพราะมันใช้ข้อมูลน้อย ไม่จำเป็นต้องบอกอะไรมาก แค่บัญชีผู้รับ-ส่ง จำนวนเหรียญ แค่นี้ก็สามารถดำเนินธุรกรรมได้แล้ว
2 เนื่องจากมีการแยกกันอย่างชัดเจน ดังนั้นหากทีมนักพัฒนาต้องการจะอัพเดจชั้นใด มันก็จะไม่กระทบการใช้งานชั้นอื่นๆ
น่าลงทุนอีกรูปแบบหนึ่งที่นักลงทุนต้องศึกษาข้อมูลเพิ่ม