เรือบินเฉดหัวไล่เครื่องยนต์ไอพ่น
เรือบินขับไสเครื่องยนต์ไอพ่นสมัยแรก (กึ่งกลางทศวรรษ 1940 ถึงกึ่งกลางทศวรรษ 1950)
ครื่องบินไล่ส่งพลังไอพ่นสมัยแรกจากการออกแบบเครื่องบินไอพ่นที่เผยตัวในช่วงท้ายของสงครามโลกครั้งที่สองรวมทั้งต้นพักหลังการรบ พวกมันผิดแผกแตกต่างไม่มากมายจากเครื่องจักรกลลูกสูบในด้านรูปลักษณ์ รวมทั้งใช้กับเรือบินปีกนิ่ง ปืนยังคงเป็นอาวุธหลัก แรงกระตุ้นในการพัฒนาเครื่องยนต์ไอพ่นซึ่งก็คือเพื่อรู้เรื่องเร็วสูงสุด ความเร็วสูงสุดของเรือบินไล่ส่งเพิ่มมากขึ้นตลอดสงครามโลกครั้งที่สองเหมือนกันกับเครื่องจักรกลลูกสูบที่ปรับปรุงไปด้วย และก็เริ่มไปสู่การบินเหนือเสียงที่ซึ่งเครื่องจักรลูกสูบไม่อาจจะทำเป็น
jumbo jili
เครื่องบินไอพ่นลำแรกถูกทำขึ้นในสงครามโลกครั้งที่สองรวมทั้งต่อสู้ในปีท้ายที่สุด เม็สเซอร์ชมิทได้ปรับปรุงเรือบินเจ็ทไล่ส่งลำแรก เป็นเม 262 มันเร็วทันใจกว่าเรือบินลูกสูบลำอะไรก็ตามและก็เมื่ออยู่ในมือของนักบินที่มากประสบการณ์มันก็จะเกิดเรื่องยากที่นักบินฝ่ายสัมพันธมิตรจะเอาชนะมันได้ การออกแบบไม่เคยปรับปรุงมากพอที่จะหยุดการบุกของแนวร่วม แล้วก็เมื่อรวมกับเชื้อเพลิงที่ขาด การสูญเสียนักบิน แล้วก็ความยุ่งยากด้านเทคนิคของเครื่องจักรกลทำให้การรบลดน้อยลง แต่กระนั้นเม 262 ได้บอกทางให้กับตอนจบของเรือบินแบบเครื่องจักรลูกสูบ ด้วยการที่ได้รับรายงานถึงเครื่องบินไอพ่นของเยอรมัน มายากลอสเตอร์ เมเทโอของอังกฤษก็ไปสู่การสร้างไม่นานต่อมาแล้วก็มีสองลำที่ปฏิบัติราชการในปีคริสต์ศักราช 1944 เมเทโอมีชื่อเสียงสำหรับการใช้เข้าสกัดจรวดวี 1 เมื่อการสู้รบจบงานแทบจะทั้งหมดของเครื่องจักรกลลูกสูบก็จบลงไปด้วย มีเพียงแต่ไม่กี่แบบที่เป็นการผสมของเครื่องยนต์กลไกลูกสูบกับเครื่องยนต์ไอพ่น เช่นไรอัน เอฟอาร์ ไฟร์บอล มันถูกใช้เพียงแค่สั้นๆแต่ว่าเมื่อจบปีคริสต์ศักราช 1914 เรือบินไล่ส่งทั้งหมดทั้งปวงก็ใช้เครื่องยนต์ไอพ่น
สล็อต
แม้กระทั่งมีสิ่งที่ได้เปรียบ เรือบินไล่ส่งไอพ่นรุ่นแรกๆนั้นก็ยังไกลห่างจากความสมบูรณ์แบบโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมัยแรก ตอนการในงานของพวกมันสั้นมากมายจนกระทั่งนับเป็นชั่วโมงได้ เครื่องจักรเองก็เปราะบางและก็งุ่มง่าม กองบินเยอะมากของเครื่องจักรลูกสูบถูกประยุกต์ใช้จนกระทั่งปีคริสต์ศักราช 1950 วัตบาปอย่างเก้าอี้ดีดตัวแล้วก็ส่วนหางถูกพรีเซนเทชั่นในตอนนี้ อเมริกายอดเยี่ยมในผู้แรกที่เริ่มใช้เรือบินไล่ไอพ่น พี-80 ชู้รักทติ้งสตาร์ (ไม่นานถูกแปลงชื่อเป็นเอฟ-80) มีความงดงามน้อยกว่าเอ็ม 262 แม้กระนั้นก็มีความเร็วสำหรับการร่อน 660 กิโล/ชั่วโมง พอๆกับขีดสูงสุดของเรือบินเครื่องยนต์กลไกลูกสูบ อังกฤษได้วางแบบเครื่องบินไอพ่นมากมายก่ายกองศูนย์รวมทั้งยังเดอ ฮาวิลแลนด์ แวมไพร์ (อังกฤษ: de Havilland Vampire) ซึ่งถูกขายให้กับทัพอากาศของหลายประเทศ
สล็อตออนไลน์
น่าขำขันที่เทคโนโลยีของโรส์รอยซ์ได้เปลี่ยนมือจากอังกฤษมาเป็นของรัสเซีย ผู้ซึ่งที่ถัดมาได้ใช้มันเพื่อปรับปรุงไม่วัวจนกระทั่ง-เราเรวิชค์ ไม่ก-15 ที่ล้ำหน้าของพวกเขาซึ่งเป็นเรือบินปีกทางข้างหลังแบบแรกที่เข้ารบ มันเป็นวัตบาปแรกที่พรีเซนเทชั่นโดยการศึกษาวิจัยเยอรมันซึ่งทำให้การบินใกล้เคียงกับความเร็วเสียงได้มากกว่าปีกตรงของเอฟ-80 ความเร็วสูงสุดของพวกมันเป็น 1,075 กม./ชั่วโมง สร้างความสนเท่ห์ใจให้กับนักบินเอฟ-80 ของอเมริกันในการรบประเทศเกาหลีเป็นอย่างมาก พร้อมทั้งอาวุธเป็นปืนใหญ่ขนาด 23 มิลลิเมตรสองกระบอกรวมทั้ง 37 มิลลิเมตรหนึ่งกระบอกเทียบกับปืนกลของอเมริกัน แม้กระนั้นสำหรับในการต่อสู้ระหว่างเจ็ทกับเจ็ทหนแรกในประวัติศาสตร์นั้น ซึ่งเกิดขึ้นในการรบประเทศเกาหลีในวันที่ 8 พ.ย. คริสต์ศักราช 1950 เอฟ-80 หนึ่งลำได้เข้าสกัดไม่ก-15 สองลำของประเทศเกาหลีเหนือแล้วก็ยิงพวกมันตก อเมริกาโต้กลับด้วยการผลิตหน่วยบินปีกทางข้างหลังของเอฟ-86 เข้าประมือกับไม่ก เรือบินสองลำมีความแข็งแกร่งที่ไม่เหมือนกัน แม้กระนั้นก็ดูเหมือนจะเป็นเทคโนโลยีที่เหนือชั้นอย่างเรดาร์รวมทั้งความชำนาญของทหานที่เคยผ่านการรบของข้างอเมริกันทำให้พวกเขาเหนือกว่า
jumboslot
ทั่วโลกแปรไปใช้เครื่องบินไอพ่นในขณะนี้ กรัมแมนได้สร้างเอฟ9เอฟ แพนคุณร์ที่ใช้โดยทัพเรือสหรัฐ เป็นเรือบินหลักในการรบประเทศเกาหลี แล้วก็มันเป็นเลิศในเรือบินเฉดหัวไล่ไอพ่นรุ่นแรกๆที่มีการเผาไหม้ด้านหลัง เดอ ฮาวิลแลนด์ แวมไพร์เป็นเรือบินเฉดหัวไล่ไอพ่นลำแรกของกองทัพเรืออังกฤษ เรดาร์ถูกใช้กับเรือบินค่ำคืนอย่างเอฟ3ดี สกายไนท์ซึ่งได้ยิงไม่กตกเหนือประเทศเกาหลี รวมทั้งถัดมาก็จัดตั้งให้กับเอฟ2เอช แบนชีรวมทั้งเรือบินปีกทางข้างหลังอย่างเอฟ7ยู คัทลาส รวมทั้งเอฟ3เอช ดีมอน อาวุธอากาศสู่อากาศแบบรังสีอินฟาเรดรุ่นแรกๆอย่างเอไอเอ็ม-9 ไซด์เหล้าองุ่นเดอร์และก็ขีปนาวุธนำวิถีด้วยเรดาร์อย่างเอไอเอ็ม-7 สแปร์โรว์ ซึ่งได้ปรับปรุงขึ้นในศตวรรษที่ 20 ถูกประยุกต์ใช้คราวแรกกับเรือบินปีกทางข้างหลังอย่างคัทลาสรวมทั้งดีมอน